
ระบบการศึกษาในปี 2021 นี้คาดว่าจะให้ความสำคัญกับการเชื่อมต่อ การปรับตัว และการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ เพราะ Covid-19 ทำหน้าที่เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกถึงวิธีการสอนของครูและการเรียนรู้ของนักเรียนนักศึกษา ให้เร่งความจำเป็นในการใช้เทคโนโลยีในการศึกษาหาความรู้ และเป็นสิ่งที่จะกำหนดอนาคตของการศึกษาในยุคปัจจุบัน กระบวนนี้จะเปลี่ยนไปจากรูปแบบการเรียนการสอนแบบเดิม ซึ่งคาดว่าจะดำเนินต่อไปอีกนานหลังจากการระบาดของโรคระบาด โดยในปี 2021 นี้เราจึงสามารถคาดหวังได้ว่าเทคโนโลยีใหม่นี้จะได้รับความสนใจเป็นอย่างอย่างมาก โดยแนวโน้มเทคโนโลยีชั้นนำที่จะส่งผลกระทบต่อการศึกษามีดังนี้:
1. วิดีโอช่วยการเรียนรู้จากระยะไกล (Video-assisted Remote Learning)
การเรียนรู้จากระยะไกลกลายเป็นเทรนด์ยอดนิยมในชั่วข้ามคืนในปี 2020 เนื่องจากการแพร่ระบาดของ Covid-19 ก่อให้เกิดแพลตฟอร์มการศึกษา และการจัดการออนไลน์ที่ปรับปรุงใหม่ ซึ่งช่วยให้นักเรียนครูและผู้บริหารโรงเรียนสามารถส่งมอบ และเข้าถึงช่องทางการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่หยุดชะงัก การใช้วิดีโอช่วยการเรียนรู้ทางไกลสามารถช่วยให้ครูสามารถเข้าถึงนักเรียนได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็ตาม ซึ่งมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอีกในปีต่อๆไป เช่นการเรียนออนไลน์ผ่าน Application อย่าง Zoom, Microsoft Team เป็นต้น
2. ปัญญาประดิษฐ์ / ส่วนการเรียนรู้ของเครื่อง (Artificial Intelligence / Machine Learning)
Machine learning คือ ส่วนการเรียนรู้ของเครื่อง ถูกใช้งานเสมือนเป็นสมองของ AI (Artificial Intelligence) เราอาจพูดได้ว่า AI ใช้ Machine Learning ในการสร้างความฉลาด มักจะใช้เรียกโมเดลที่เกิดจากการเรียนรู้ของปัญญาประดิษฐ์ ไม่ได้เกิดจากการเขียนโดยใช้มนุษย์ มนุษย์มีหน้าที่เขียนโปรแกรมให้ AI (เครื่อง) เรียนรู้จากข้อมูลเท่านั้น ที่เหลือเครื่องจัดการเอง ซึ่งสิ่งเหล่านี้มันไม่ได้เป็นเพียงแค่คำศัพท์อีกต่อไป แต่เป็นเทรนด์ที่เฟื่องฟู โดยมีความเกี่ยวข้องกับการศึกษาเพิ่มขึ้น ด้วยฟังก์ชันการทำงานพื้นฐานมันสามารถช่วยทำงานบางอย่างของครู และผู้ดูแลระบบได้โดยอัตโนมัติ เช่นการให้คะแนน และการติดตามการเข้าร่วมของนักเรียน อย่างไรก็ตามศักยภาพที่แท้จริงของ Machine learning อยู่ที่ความสามารถในการเรียนรู้ความก้าวหน้า และความต้องการของนักเรียนแต่ละคน และให้ข้อมูลเชิงลึกที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นเพื่อผลการเรียนรู้ที่ดีขึ้น โดยผู้เรียนสามารถใช้ข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้ในการตอบสนองการเติบโตทางวิชาการของแต่ละคนได้ดีขึ้น
3. การเรียนรู้เฉพาะบุคคล และการปรับเปลี่ยนเฉพาะบุคคล (Hyper-personalized and Adaptive Learning)
การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี ความรู้ความเข้าใจในการพัฒนาแอพพลิเคชั่นจำนวนมาก สามารถช่วยปลดล็อกระดับของการปรับเปลี่ยนเฉพาะบุคคลที่ไม่เคยมีมาก่อน เราจะเข้าใจได้ดีขึ้นว่านักเรียนกำลังมองหาอะไร และต้องการอะไรเพื่อเรียนรู้สิ่งใหม่ๆหรือต้องการสำรวจเพิ่มเติม สิ่งนี้ช่วยให้สามารถปรับเนื้อหาหลักสูตร และเส้นทางการเรียนให้เหมาะกับผู้เรียนแต่ละคนได้ ซึ่งหมายความว่านักเรียนอาจไม่ได้สัมผัสประสบการณ์ในชั้นเรียนเดียวกันเสมอไปเนื่องจากเนื้อหาจะถูกปรับให้เหมาะกับผู้เรียนแต่ละบุคคล
4. การเรียนรู้ที่สมจริงด้วย AR และ VR (Immersive Learning with AR and VR)
ความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับการเรียนรู้จากประสบการณ์เสมือนจริง ได้กระตุ้นให้มีการนำ Augmented Reality (AR) และ Virtual Reality (VR) มาใช้ในการผลักดันขอบเขตของการเรียนรู้แบบเดิมๆ เพื่อให้เกิดการโต้ตอบมากขึ้น เทคโนโลยีที่สมจริงช่วยให้การส่งสัญญาณภาพและเสียงเสมือนจริงมาสู่ผู้รับสารที่ก่อนหน้านี้ถือว่าเป็นไปไม่ได้หรือแม้กระทั่งไม่ปลอดภัย ปัจจุบันนักเรียนสามารถทำการผ่าตัดโดยไม่มีความเสี่ยง เราสามารถสำรวจดาวอังคารทำการทดลองวิทยาศาสตร์ หรือแม้แต่เข้าร่วมคอนเสิร์ตดนตรีร่วมกับเพื่อนๆทั่วโลกได้ด้วยการจัดเตรียมเทคโนโลยีเสมือนจริงที่สร้างขึ้นแบบดิจิทัลนี้ได้
5. “ข้อมูลที่ใหญ่กว่า” (“Bigger” Data)
ข้อมูลขนาดใหญ่เริ่มใหญ่ขึ้น ด้วยการใช้เทคโนโลยีและเครื่องมือดิจิทัลที่เพิ่มขึ้นหลายเท่า เราสามารถคาดหวังได้ว่าปริมาณข้อมูลที่ถ่ายโอน และรวบรวมจะเพิ่มขึ้นแบบทวีคูณ ข้อมูลกำลังถูกใช้เพื่อสนับสนุนการวิเคราะห์เชิงคาดการณ์ เช่นระบบแจ้งเตือนล่วงหน้าในความสำเร็จของนักเรียน หรือเพื่อกำหนดหลักสูตรในอนาคตโดยอาศัยการวิเคราะห์รูปแบบการเรียนการสอนในอดีตของนักเรียน ความเป็นไปได้ในการยกระดับคุณภาพการเข้าถึง และการปรับเปลี่ยนการศึกษาในส่วนบุคคลในปี 2021 จะไม่มีที่สิ้นสุด ผู้สร้างเนื้อหา และนักออกแบบการเรียนการสอนจะสามารถใช้ข้อมูลเชิงลึกที่ได้รับในประสบการณ์ของนักเรียน เพื่อปรับแต่งและสร้างแหล่งการเรียนรู้ดิจิทัลได้ดีขึ้น นักการศึกษาไม่เพียงแต่จะได้รับประโยชน์จากความเข้าใจในตัวของนักเรียนเพียงเท่านั้น แต่ยังใช้ข้อมูลเพื่อพัฒนาและการส่งมอบทักษะตามความจำเป็นอีกด้วย
6. การเรียนรู้ตามความต้องการ (On-Demand Learning)
การเรียนรู้จากระยะไกลจะนำไปสู่ความเข้าใจที่ดีขึ้นเกี่ยวกับวิธีที่เราต้องการใช้เวลาของเราให้ดีขึ้น ด้วยรูปแบบการเรียนรู้แบบออนไลน์เต็มรูปแบบและแบบผสมผสานที่เพิ่มขึ้นนักเรียนต้องการความสามารถในการปรับตัวและความยืดหยุ่นในประสบการณ์การศึกษาของตนมากขึ้น นักเรียนจะมีอำนาจเพิ่มขึ้นในแง่ของสิ่งที่พวกเขาเรียนรู้เมื่อใดอย่างไรและที่ไหน ความต้องการในการเรียนรู้ที่จะเห็นการเพิ่มขึ้นในการนำไปใช้ในขณะที่โรงเรียนแบบดั้งเดิมจะถูกจำกัดน้อยลงโดยสภาพทางภูมิศาสตร์
สรุปแล้วเราสามารถคาดหวังว่าปี 2021 จะเป็นปีที่มองโลกในแง่ที่ดียิ่งขึ้นสามารถขับเคลื่อนไปได้อย่างยืดหยุ่น และก่อให้เกิดการเรียนรู้ใหม่ๆ ซึ่งการเรียนรู้โดยใช้เทคโนโลยีจะเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกของโรงเรียน มหาวิทยาลัย หรือรูปแบบการศึกษาใดๆ ในช่วงปีนี้
ข้อมูล
ผู้เขียน: Krishnan Gopi is the group chief disruption officer at GEMS Education
บทความ: gulfbusiness.com